UFABETWINS เสือใต้ในยุค โอลิเวอร์ คาห์น

บาเยิร์น มิวนิค จะเริ่มต้นยุคใหม่หลัง โอลิเวอร์ คาห์น เตรียมก้าวขึ้นมารับตำแหน่งซีอีโอคนใหม่ต่อจาก คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ ทำงานร่วมกับ แฮร์เบิร์ต ไฮเนอร์ ประธานทีมเสือใต้

แฮร์เบิร์ต ไฮเนอร์ ประธานสโมสร บาเยิร์น มิวนิค มีบทบาทสำคัญสำหรับการเปลี่ยนแปลงภายในสำนักงานส่วนหน้าของสโมสร ซึ่งเกิดขึ้นเร็วเล็กน้อยหลัง คาร์ล -ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ กำลังจะก้าวลงจากตำแหน่งประธานฝ่ายบริหารในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ก่อนส่งไม้ต่อให้ โอลิเวอร์ คาห์น สานงานต่อในฐานะซีอีโอคนใหม่ของทีมดังแคว้นบาวาเรีย

‘มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เราทุกคนวางแผนมาเป็นเวลานาน หนึ่งปีครึ่งที่แล้ว โอลิเวอร์ คาห์น เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบอร์ดในช่วงแรกเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับบทบาทใหม่ของเขาในฐานะซีอีโอ’ ไฮเนอร์ กล่าว

‘ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา คาร์ล-ไฮนซ์ ได้ส่งมอบพื้นที่ความรับผิดชอบของเขาให้ โอลิเวอร์ มากขึ้นเรื่อยๆและตอนนี้มันเป็นการส่งมอบขั้นตอนสุดท้ายแล้ว’

‘เราทุกคนเห็นตรงกันว่าการสิ้นสุดฤดูกาลเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสุดสำหรับการส่งมอบ บทใหม่จะเริ่มต้นกับ ยูเลียน นาเกลส์มันน์ และโดยรวมแล้วการเปลี่ยนแปลงนี้มีเหตุผล การตัดสินใจทั้งหมดที่เกิดขึ้นล่าสุดและอยู่ระหว่างดำเนินการในขณะที่มีผลกระทบต่อฤดูกาลใหม่และต่อๆไป’

‘ดังนั้นมันจึงสมเหตุสมผลที่ โอลิเวอร์ คาห์น เข้ามารับผิดชอบตอนนี้ มันเหมือนบังเอิญที่ผมทำแบบเดียวกันกับ อาดิดาส และยุติบทบาทไปก่อาหน้านี้ 5 เดือนหลังจากที่ผู้สืบทอดของผมได้รับการเทรนงาน’

ไฮเนอร์ ยังคาดหวังว่าการทำงานร่วมกับ คาห์น จะราบรื่นหลังการร่วมมือกันตลอดช่วงปีครึ่งที่ผ่านมาซึ่งดำเนินไปด้วยดี

‘ผมสามารถพูดได้จากการทำงานร่วมกันกับเขาว่าเขายอมรับ เอฟซี บาเยิร์น ในทุกแง่มุมและได้เตรียมการอย่างเข้มข้นสำหรับภารกิจสำคัญนี้ มันเป็นเรื่องดีและถูกต้องที่ไม่ต้องครอบครองทุกอย่างตั้งแต่เริ่มต้น แต่ให้นำการเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นขั้นเป็นตอนร่วมกับ คาร์ล-ไฮนซ์’ ไฮเนอร์ กล่าว

‘ตอนนี้เป็นเวลาที่เขาจะต้องย้ายไปอยู่แถวหน้า และใครก็ตามที่เห็นเขาในการเจรจาในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เช่นกันกับ ยูเลียน นาเกลส์มันน์ ที่รู้ว่าเขาเป็นคนที่มีทัศนคติที่ชัดเจนและมีแนวคิดชัดเจนเสมอ คาห์น จะนำทุกอย่างมาพร้อมกับเขา’

รุมเมนิกเก้ ตกลงยกเลิกสัญญากับ บาเยิร์น มิวนิค ก่อนที่จะหมดอายุ 6 เดือน เพื่อเปิดทางให้ คาห์น ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบอร์ดบริหารทีมเสือใต้ตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2020 สืบทอดตำแหน่งซีอีโอทีมเสือใต้ต่อไป หลัง รุมเมนิกเก้ วัย 65 ปีใช้เวลาตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมาทำงานกับทีมดังแคว้นบาวาเรียนับตั้งแต่ยุติอาชีพค้าแข้ง

‘มันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในเชิงกลยุทธิ์และมีเหตุผลมากที่สุด’

‘สิ้นปีงบประมาณนี้และในขณะเดียวกัน บทใหม่จะเริ่มต้นด้วยเทรนเนอร์คนใหม่ ฤดูกาลใหม่จึงควรเป็นความรับผิดชอบของ โอลิเวอร์ คาห์น ในฐานะซีอีโอคนใหม่ตั้งแต่ต้น’

‘ผมพูดไปเมื่อ 2 ปีที่แล้วว่าเรากำลังวางแผนเปลี่ยนแปลงอย่างรอบคอบและนั่นก็เกิดขึ้นในที่สุด นั่นคือวิธีที่มันควรจะเป็น’ รุมเมนิกเก้ กล่าว

รุมเมนิกเก้ เข้ามารับตำแหน่งรองประธานสโมสร บาเยิร์น มิวนิค ตั้งแต่ปี 1991 ก่อนเลื่อนขึ้นมาเป็นประธานกรรมการบริหารฝ่ายฟุตบอลในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2002 และประสบความสำเร็จมากที่สุดยุคหนึ่งของสโมสร จากการคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 19 สมัยและแชมป์ยุโรป 3 สมัย ทีมเสือใต้ยังเติบโตทางการเงินอย่างชัดเจนด้วยรายรับที่เพิ่มขึ้นจาก 176 ล้านยูโรเป็น 679 ล้านยูโร

‘ในฐานะซีอีโอ, คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมให้ บาเยิร์น มากกว่า 20 ปี’ คาห์น กล่าว ‘ในช่วงเวลานี้ สโมสรชนะทุกอย่างที่ต้องชนะ คุณไม่สามารถให้ประเมินค่าการทำงานของเขาให้ บาเยิร์น ได้ดีพอ ถึงเวลาแล้วที่ผมต้องรับผิดชอบงานตำแหน่งสูงสุดของ บาเยิร์น มิวนิค’

 

‘ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา ผมได้รู้จักทุกแง่มุมของสโมสร ผมรู้ว่าผมกำลังเผชิญกับความท้าทายอะไร ผมตระหนักถึงงานนี้และผมตั้งตารอมันมาก’

นั่นคือการเปลี่ยนระดับยอดปิรามิดของ บาเยิร์น มิวนิค เมื่อ คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ ถ่ายโอนอำนาจสู่ โอลิเวอร์ คาห์น พร้อมการปรับเปลี่ยนในระดับรองลงมาอย่างตำแหน่งเทรนเนอร์ที่ ยูเลียน นาเกลส์มันน์ จะเข้ามารับไม้ต่อจาก ฮันซี่ ฟลิค ซึ่งถือเป็นความท้าทายทั้งเทรนเนอร์วัย 33 ปีและสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งแคว้นบาวาเรีย

แน่นอนว่าการมาของเทรนเนอร์คนใหม่ย่อมก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของขุมกำลังทีมเสือใต้เช่นเดียวกัน หลัง บาเยิร์น มิวนิค เสีย 3 ผู้เล่นประสบการณ์อย่าง เยโรม บัวเต็ง, ดาวิด อลาบา และ ฆาเบียร์ มาร์ตีเนซ นอกจากนี้ทีมเสือใต้ยังอาจปล่อยผู้เล่นระดับบิ๊กเนมอย่าง โกร็องแต็ง โตลิสโซ่, คิงส์เลย์ โกมัน หรือ นิคลาส ซือเล่ ในช่วงซัมเมอร์นี้ด้วย

ขณะที่ บาเยิร์น มิวนิค เพิ่งเติมสมาชิกใหม่เพียง 2 คนคือ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ เซนเตอร์ชาวฝรั่งเศสจาก แอร์เบ ไลป์ซิก และ โอมาร์ ริชาร์ดส์ แบ็กซ้ายชาวอังกฤษจาก เร้ดดิ้ง ซึ่ง นาเกลส์มันน์ ยังต้องการเสริมทัพบางจุดเพิ่มเติ่มโดยเฉพาะตัวริมเส้นฝั่งขวาและมิดฟิลด์สไตล์ ‘บ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์’

นักเตะริมเส้นฝั่งขวาที่สามารถเล่นวิงแบ็กในระบบ 3 เซนเตอร์ ตามสเป็คของ นาเกลส์มันน์ คือ อาชราฟ ฮาคิมี่ ฟูลแบ็กทีมชาติโมร็อกโกของ อินเตอร์ มิลาน แต่อุปสรรคสำคัญคือทีมเนรัซซูร์รี่ตั้งค่าหัวนักเตะไว้สูงถึง 80 ล้านยูโร

ก่อนทีมเสือใต้จะแสดงความสนใจ เดนเซล ดุมฟรีส์ แบ็กขวาวัย 25 ปีของ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ซึ่งทำผลงานโดดเด่นบนเวทียูโรรอบสุดท้ายกับทีมชาติเนเธอร์แลนด์สและที่สำคัญสนนราคาถูกว่า ฮาคิมี่ ด้วย

นอกจากนี้เทรนเนอร์วัย 33 ปียังมีแผนผลักดันผู้เล่นจากทีมเยาวชนที่มีแววขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่อาทิ คริส ริชาร์ดส์, มาลิค ทิลล์แมน, คริสโตเฟอร์ สกอตต์, จัสติน เช, อาร์มินโด้ เซ็บ หรือ โยซิป สตานิชิช เป็นต้น

อีกหนึ่งประเด็นที่น่าจับตามองการทำงานของ นาเกลส์มันน์ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในโค้ชนักปฎิวัติมากที่สุดของลีกเมืองเบียร์ โดยอาจปรับเปลี่ยนตำแหน่งการเล่นของนักเตะบางคนในฤดูกาลหน้า โดยเฉพาะ ลีรอย ซาเน่, แซร์ช นาบรี้ กับ อัลฟอนโซ่ เดวิส

ซาเน่ ย้ายจาก แมนฯซิตี้ มาค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงซัมเมอร์ปี 2020 ซึ่งแนวรุกวัย 25 ปีลงทำเกมริมเส้นทั้งสองฝั่งของทีมเสือใต้ ทำ 10 ประตูกับ 12 แอสซิสต์จากการลงเล่นทุกรายการ 44 เกม แต่เขาอาจถูก นาเกลส์มันน์ ปรับมาเล่นตำแหน่งหน้าเป้าในซีซั่นหน้า

ปกติ ซาเน่ มักจะเล่นแนวรุกฝั่งซ้ายช่วงที่ค้าแข้งกับ แมนฯซิตี้ ก่อนที่ บาเยิร์น มิวนิค จะปรับให้นักเตะถนัดเท้าซ้ายมาเล่นแนวรุกฝั่งขวาเพื่อใช้เทคนิคและความเร็วเลี้ยงตัดเข้ากลางก่อนสับไกด้วยเท้าข้างถนัดเหมือน อาร์เยน ร็อบเบน

อย่างไรก็ตาม นาเกลส์มันน์ ชื่นชอบระบบ 3-4-3 มาเป็นพิเศษ เขาใช้ระบบดังกล่าวกับ แอร์เบ ไลป์ซิก มากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ในฤดูกาลที่ผ่านมา โดยใช้ฟูลแบ็กทั้งสองมีส่วนในการเล่นเกมรุกจากพื้นที่ด้านข้าง

แต่ ซาเน่ อาจไม่จำเป็นต้องขยับเข้าข้างในมากเกินไป เขาสามารถเล่นในบทบาทเหมือน เอมิล ฟอร์สเบิร์ก หรือ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ซึ่งเล่นอยู่ข้างหลังกองหน้าตัวเป้าและมีส่วนช่วยทีมทำประตูคนละ 15 และ 18 ประตูตามลำดับ

‘ผมไม่เคยฝึกซ้อมเป็นการส่วนตัวภายใต้ ยูเลียน นาเกลส์มันน์ แต่จากสิ่งที่คุณได้ยินมา มีความเป็นไปได้หลายอย่างที่คล้ายกันกับ (โค้ช แมนฯซิตี้) เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ซึ่งผมรู้จักดีและสามารถพูดในแง่บวกได้เท่านั้น ผมตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับเขาในฤดูกาลหน้า และผมมองในแง่ดีว่ามันจะเป็นช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จ’

สำหรับ นาบรี้ มักจะเล่นแนวรุกฝั่งตรงข้าม ซาเน่ ภายใต้โค้ช ฮันซี่ ฟลิค ในฤดูกาลที่ผ่านมา บางครั้งเหมือนเป็นภาพสะท้อนที่ลากบอลจากทางซ้ายตัดเข้ากลางเพื่อสับไกด้วยเท้าขวาข้างถนัด เขาทำ 11 ประตูกับ 7 แอสซิสต์จากการลงเล่นทุกรายการ 38 เกม

บทบาทของ นาบรี้ ตรงกันข้ามในการเล่นกับทีมชาติเยอรมันที่มักจะลงเล่นแนวรุกฝั่งขวา ก่อน โยอาคิม เลิฟ จะปรับมาเล่นตำแหน่งหน้าเป้า ซึ่งเขาตอบแทนความไว้วางใจของเทรนเนอร์ด้วยการทำ 16 ประตูและ 7 แอสซิสต์จากการลงสนามในนามทัพอินทรีเหล็ก 24 เกม

นาบรี้ ยังเคยมีประสบการณ์ร่วมกับ นาเกลส์มันน์ มาก่อนหน้านี้ระหว่างย้ายมาเล่นกับ ฮอฟเฟนไฮม์ ด้วยสัญญายืมตัวในฤดูกาล 2017-2018 ซึ่งเทรนเนอร์วัย 33 ปีอาจปรับให้ นาบรี้ มาเล่นวิงแบ็กฝั่งขวาได้เช่นกัน

‘ผมคิดว่าเขาสามารถทำมันได้’ นาเกลส์มันน์ กล่าว ‘ผมมองเห็นศักยภาพที่ดีในอนาคตของเขา มันดีเสมอเมื่อมีนักเตะที่มีความหลากหลายและสามารถเล่นได้หลายตำแหน่ง เขามีที่ว่างมากมายสำหรับการพัฒนาฝีเท้าของเชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากตำแหน่งที่ลึกกว่าเดิม’

ขณะที่ นาบรี้ มีโอกาสถอยลงมาเล่นตำแหน่งต่ำกว่าเดิม แต่ เดวิส อาจขยับขึ้นมาเล่นสูงขึ้นในยุคของ นาเกลส์มันน์ หลังแข้งชาวแคนาเดี้ยนทำผลงานน่าประทับใจกับทีมเสือใต้จนเขี่ย ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ หลุดจากตำแหน่งแบ็กซ้ายตัวจริง

เดวิส เริ่มต้นเล่นฟุตบอลอาชีพฐานะตัวรุก ก่อนมาแจ้งเกิดกับตำแหน่งแบ็กซ้ายของทีมเสือใต้ด้วยการใช้จุดแข็งของเขานั่นคือความเร็ว โดยสร้างสถิติเป็นนักเตะวิ่งเร็วสุดของบุนเดสลีกาจากการทำความเร็ว 22.7 ไมล์ต่อชั่วโมงในเกมชนะ แวร์เดอร์ เบรเมน 1-0 เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่่ผ่านมา

จากศักยภาพของ เดวิส จึงเป็นนักเตะที่เหมาะกับบทบาททั้งการโจมตีและการป้องกันของ บาเยิร์น มิวนิค จากการคิดแบบนอกกรอบของ นาเกลส์มันน์ ในฐานะวิงแบ็กฝั่งซ้ายในฤดูกาลหน้า

นั่นคือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับ บาเยิร์น มิวนิค ตั้งแต่ระดับส่วนบนจนถึงฐานรากก่อนเริ่มต้นยุคใหม่ในซีซั่นหน้า

คลิกเลย >>> https://www.ufabetwins.com/
อ่านเพิ่มเติม >>> บ้านผลบอล