UFABETWINS บุนเดสลีกา ลีกฟุตบอลระดับสูงสุดของชาติ ที่เน้นความเข้าใจแทคติกเป็นสำคัญ

มันมีที่มา : ไขข้อข้องใจ…ทำไมนักฟุตบอลทีมชาติออสเตรีย จึงไปเล่นบุนเดสลีกาเกือบยกทีม?

UFABETWINS ทีมชาติเยอรมัน ถือเป็นประเทศจากทวีปยุโรปที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกฟุตบอล ซึ่งรากฐานความสำเร็จของพวกเขาหนีไม่พ้น บุนเดสลีกา ลีกฟุตบอลระดับสูงสุดของชาติ ที่เน้นความเข้าใจแทคติกเป็นสำคัญ
แต่สำหรับ ยูโร 2020 ชาติที่มีนักเตะค้าแข้งในบุนเดสลีกามากที่สุด กลับไม่ใช่ทัพอินทรีเหล็ก แต่เป็น “ทีมชาติออสเตรีย” บ้านใกล้เรือนเคียงของเยอรมัน ที่ส่งนักเตะ 21 รายจากชุดนี้ไปค้าแข้งในบุนเดสลีกา หรือพูดง่าย ๆ คือ เกือบทั้งทีม
นี่คือเรื่องราวที่ตอบคำถามของคุณได้ว่า ทำไมนักฟุตบอลทีมชาติออสเตรีย จึงเล่นในบุนเดสลีกาเกือบยกทีม ? และความจริงข้อนี้สามารถช่วยให้พวกเขา สร้างความได้เปรียบในยูโร 2020 ได้อย่างไร
บ้านพี่เมืองน้อง เพื่อนพ้องน้องพี่
เยอรมัน และ ออสเตรีย ถือเป็นสองประเทศที่มีประวัติศาสตร์ร่วมกันอย่างยาวนาน เห็นได้ชัดจากช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เมื่อจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี ล่มสลาย ชาวออสเตรียที่พูดภาษาเยอรมัน เลือกยึดครองดินแดนทางตะวันตก และทางเหนือของจักรวรรดิเดิม และก่อตั้งสาธารณรัฐเยอรมันออสเตรีย ในปี 1918
แม้รัฐดังกล่าวจะคงอยู่ได้เพียงปีเดียว เพราะในปี 1919 สาธารณรัฐออสเตรีย กลายเป็นประเทศใหม่ที่เข้ามาแทน แต่การปรากฏของสาธารณรัฐเยอรมันออสเตรีย แสดงให้เห็นถึงความรู้สึก “ใกล้ชิด” ที่ชาวออสเตรียมีต่อชาวเยอรมัน ซึ่งมากกว่าเชื้อชาติร่วมจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี ไม่ว่าจะเป็น ชาวฮังการี, ชาวเช็ก, ชาวโปแลนด์, ชาวโรมาเนีย, ชาวโครเอเชีย, ชาวเซอร์เบีย และชาวสโลวีเนีย ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า พวกเขาอยู่ร่วมกันไม่ได้ และต้องแยกกันไปตามทางของตัวเอง
เยอรมัน และ ออสเตรีย เคยรวมเป็นอาณาจักรเดียวกันในช่วงปี 1938-1945 ภายใต้การปกครองของนาซีเยอรมัน แม้ช่วงเวลาดังกล่าวคือประวัติศาสตร์ที่ไม่น่าจดจำของชาวเยอรมัน และชาวออสเตรีย
แต่เราปฏิเสธไม่ได้ว่า ชาวออสเตรียสนับสนุนที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของนาซีเยอรมันโดยสมัครใจ และมีกำลังพลชาวออสเตรียเกือบหนึ่งล้านนายร่วมสู้รบในสงครามโลกครั้งที่สอง ภายใต้สังกัดนาซีเยอรมัน ก่อนออสเตรียจะแก้ต่างเรื่องราวทั้งหมดหลังสงครามสิ้นสุด โดยประกาศต่อชาวโลกว่า ออสเตรีย คือ “เหยื่อรายแรกของนาซี” ซึ่งทฤษฎีนี้รู้จักกันดีในชื่อ “Austria victim theory”
กาลเวลาหมุนผ่านสู่ปลายศตวรรษที่ 20 กระแส Europeanization หรือยุโรปภิวัฒน์ กำลังส่งอิทธิพลมหาศาลเหนือดินแดนยุโรปกลาง และยุโรปตะวันตก ความขัดแย้งระหว่างชาติในยุโรป ซึ่งเกือบทำลายโลกทั้งใบในช่วงต้น รวมถึงกลางศตวรรษที่ 20 ถูกลบเลือนไป
แทนที่ด้วยแนวคิด และกระบวนการทำให้เป็นยุโรป กล่าวคือ ทุกประเทศในยุโรปล้วนเป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้สหภาพยุโรป หากไม่นับกระแสชาตินิยมที่เรามองเห็นได้ทั่วไปในการแข่งขันกีฬา (เช่น ยูโร 2020) ความรู้สึกชิงชังบ้านใกล้เรือนเคียงจึงลดน้อยลงไปมาก UFABETWINS

UFABETWINS
แนวคิดยุโรปภิวัฒน์ช่วยตอบโจทย์การเมืองแบบเสรีนิยม และเศรษฐกิจเสรีนิยมใหม่ ที่เปิดโอกาสให้แรงงานเดินทางข้ามประเทศอย่างเสรี เรื่องนี้ส่งผลถึงกีฬาฟุตบอลอย่างเห็นได้ชัด ในช่วงปลาย 1990s เมื่อความนิยมนักเตะในชาติลดลงไป และเริ่มมีการดึงนักเตะจากต่างประเทศเข้ามาเล่นในสโมสรอย่างเสรี
อุดมการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ส่งผลให้เยอรมัน และออสเตรีย กลายเป็นเมืองพี่เมืองน้องยิ่งกว่าเดิม แม้จะมองผ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับกีฬาฟุตบอล เราก็ยังเห็นความใกล้ชิดนี้อยู่ ยกตัวอย่าง WALTER นักมวยปล้ำชื่อดังชาวออสเตรีย ที่ออกตัวสนับสนุนทีมชาติเยอรมันอย่างชัดเจน ในยูโร 2020 ผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว โดยไม่เคยพูดถึงฟุตบอลทีมชาติออสเตรีย แม้แต่ครั้งเดียว
ความใกล้ชิดนี้ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้นักเตะชาวออสเตรีย หลั่งไหลสู่บุนเดสลีกา เพราะพวกเขาแทบไม่ต้องปรับตัวด้านภาษา หรือ วัฒนธรรม เพราะสำหรับชาวออสเตรีย ประเทศเยอรมนี คือพี่ใหญ่ สำหรับพวกเขามาเสมอ
เราจึงเห็นนักเตะจากออสเตรียโลดแล่นในเยอรมัน มากกว่าลีกชั้นนำอื่น เช่น พรีเมียร์ลีก, ลาลีกา หรือ กัลโช่ เซเรีย อา
ตลาดส่งออกนักเตะสู่บุนเดสลีกา
เหตุผลทางประวัติศาสตร์ การเมือง และวัฒนธรรม ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้แข้งออสเตรียพาเหรดสู่บุนเดสลีกา แต่อีกหนึ่งสาเหตุที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ การแข่งขันกีฬาฟุตบอลในประเทศออสเตรีย ซึ่งเอื้อต่อการส่งนักเตะออกต่างประเทศ
แตกต่างจากประเทศใหญ่ในยุโรปที่มีจำนวนทีมแข่งขันบนลีกสูงสุด 18-20 ทีม ออสเตรีย บุนเดสลีกา มีสโมสรฟุตบอลลงแข่งขันเพียง 12 ทีม แม้ฟุตบอลจะเป็นหนึ่งในกีฬาที่ชาวออสเตรียนิยมมากที่สุด แต่เนื่องจากประเทศที่มีขนาดเล็ก และประชากรซึ่งมีอยู่เพียงราว 9 ล้านคน (เยอรมันมีประชากรราว 83 ล้านคน) กีฬาฟุตบอลในออสเตรียจึงไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก

“มิลาน” ประกาศยืม “ดิอาซ” ร่วมทีมพ่วงซื้อขาด

เอซี มิลาน ประกาศคว้า บราฮิม ดิอาซ มาจาก เรอัล มาดริด เป็นที่เรียบร้อย สัญญายืมตัว 2 ปี พร้อมมีออปชั่นซื้อขาด 22 ล้านยูโร

เอซี มิลาน ประกาศคว้า บราฮิม ดิอาซ มาจาก เรอัล มาดริด เป็นที่เรียบร้อย สัญญายืมตัว 2 ปี

แถลงการณ์ระบุแค่เพียงการดึงมาร่วมทีมไปจนถึงจบฤดูกาล 2023 กระนั้นบรรดาสื่อใหญ่ในยุโรปและนักข่าวชื่อดังเผยว่าการยืมตัวหนนี้ ปิศาจแดงดำ จ่ายค่ายืมไปให้ เรอัล มาดริด 3 ล้านยูโร บ้านผลบอล

UFABETWINS

นอกจากนั้น มิลาน มีออปชั่นในการเซ็นสัญญาถาวรมูลค่า 22 ล้านยูโร แต่มีเงื่อนไขที่ ราชันชุดขาว สามารถซื้อแนวรุกวัย 21 ปีกลับไปได้ในราคา 27 ล้านยูโร

ดาวเตะทีมชาติสเปน จะสวมเสื้อหมายเลข 10 ที่ว่างอยู่หลังฮาคาน ชาลฮาโนกลู ตัดสินใจย้ายไปอินเตอร์ มิลาน

สำหรับ ดีอาซ ลงสนามให้ มิลาน เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาไปทั้งหมด 39 เกม โดยฤดูกาลนี้นักเตะจะสลับมาสวมเสื้อหมายเลข 10 ให้กับสโมสร