UFABETWINS สูงสุด คืนสู่สามัญ

อองตวน กรีซมันน์ ย้ายออกจาก ‘คัมป์ นู’ ในช่วงท้ายตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาเป็นแข้งดาวดังคนที่สองต่อจาก ลิโอเนล เมสซี่ ที่ต้องอำลาสโมสรเพราะปัญหาทางการเงิน

ซัมเมอร์ปี 2021 คงเป็นตลาดที่ไม่น่าจดจำสำหรับสาวกบาร์เซโลนีสต้าโดยเฉพาะการสูญเสียสุดยอดนักเตะอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ที่อยู่กับสโมสรมานานร่วม 21 ปี จากการบริหารงานผิดพลาดของบอร์ดยุค โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว จนส่งผลกระทบมาถึงปัจจุบัน

บาร์เซโลน่า เซ็นสัญญากับนักเตะใหม่ 5 คน แต่ปล่อยผู้เล่นย้ายสังกัด 14 คน รวมถึง บาร์เซโลน่า เบ อีก 5 คน จนเป็นซัมเมอร์แรกในประวัติศาสตร์สโมสรที่ทำเงินจากการขายนักเตะมากถึง 70 ล้านยูโรและยังมีโบนัสเพิ่มเติมอีกราว 13 ล้านยูโร

ทัพอาซูลกราน่าเปิดตลาดซัมเมอร์นี้แบบหวือหวาด้วยการเซ็นสัญญากับ เซร์คิโอ อเกวโร่ กุน และ เอริก การ์เซีย ซึ่งย้ายมา ‘คัมป์ นู’ แบบไม่มีค่าตัวหลังสิ้นสุดสัญญากับ แมนฯซิตี้ เช่นเดียวกับ เมมฟิส เดอปาย กองหน้าทีมชาติเนเธอร์แลนด์สที่ย้ายมาจาก โอลิมปิก ลียง โดยจ่ายเงินเพียง 9 ล้านยูโรดึง เอแมร์ซอน โรยาล แบ็กขวาชาวบราซิเลียนมาจาก เรอัล เบติส เท่านั้น

ทว่าปัญหาทางการเงินของสโมสรบวกกับการกำหนดเพดานค่าจ้างของ ลา ลีกา ส่งผลกระทบต่อทีมอาซูลกราน่ามากกว่าที่หลายคนคาดคิดจนทีมยักษ์ใหญ่แคว้นกาตาลุนย่าไม่สามารถเก็บรักษานักเตะดีที่สุดในโลกอย่าง เมสซี่ ไว้ในถิ่น ‘คัมป์ นู’ ต่อไปจนกระทั่งกองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ย้ายไปเซ็นสัญญา 2 ปีกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง

บาร์เซโลน่า ยังต้องพยายามทุกทางเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของสโมสร พวกเขาปล่อยทะยอยปล่อยนักเตะออกจากสังกัดอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นด้วยการยกเลิกสัญญากับ มาเธอุส แฟร์นานเดส ที่ดึงมาจาก พัลไมรัส ในช่วงเดือนมกราคมปี 2020 ด้วยค่าตัว 7 ล้านยูโร ซึ่งมิดฟิลด์ชาวบราซิเลียนลงเล่นกับทีมอาซูลกราน่าเพียง 17 นาทีก่อนถูกลอยแพและกลับไปเซ็นสัญญากับทีมเก่าอีกครั้ง

คอนราด เด ลา ฟวนเต้ ย้ายไปค้าแข้งกับ โอลิมปิก มาร์กเซย ด้วยค่าตัว 3.5 ล้านยูโร, เซร์คิโอ อาเกียเม่ โยกซบ อัลเมเรีย ด้วยค่าตัวเท่ากัน ขณะที่ ฆวน มีรานด้า เซ็นสัญญาถาวรกับ เรอัล เบติส แบบไม่มีค่าตัวหลังทำผลงานน่าประทับใจระหว่างย้ายมาเล่นด้วยสัญญายืมตัวฤดูกาลที่ผ่านมา ส่วน ราม่อน โรดรีเกซ ฆีเมเนซ หรือ มอนชู อีกหนึ่งมิดฟิลด์อนาคไกลย้ายไปเซ็นสัญญากับ กรานาด้า แบบไร้ค่าตัว

ฌอง-แกลร์ก โตดีโบ กองหลังชาวฝรั่งเศสโยกซบ นีซ แบบถาวรด้วยค่าตัว 8.5 ล้านยูโร ส่วน การ์เลส อาเลนญ่า กับ เอคตอร์ จูเนียร์ ฟีร์โป ย้ายไปค้าแข้งกับ เคตาเฟ่ และ ลีดส์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 5 กับ 15 ล้านยูโรตามลำดับ

ขณะที่ ฟรานซิสโก้ ตรินเกา แนวรุกชาวโปรตุกีสย้ายไปเล่นกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ด้วยสัญญายืมตัว ส่วน เรย์ มานาย กองหน้าทีมชาติแอลเบเนียย้ายไปเล่นกับ สเปเซีย ด้วยสัญญายืมตัวหนึ่งปี

ช่วงท้ายของตลาดซัมเมอร์นี้ บาร์เซโลน่า ยังปล่อย อีไลซ์ โมรีบา มิดฟิลด์วัย 18 ปีย้ายไป แอร์เบ ไลป์ซิก ด้วยค่าตัว 16 ล้านยูโรบวกโบนัสตามเงื่อนไขอีก 6 ล้านยูโร ขณะที่ เอแมร์ซอน ถูกเทขายให้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ด้วยค่าตัว 25 ล้านยูโรท่ามกลางข่าวลือว่าแบ็กชาวบราซิเลียนไม่แฮปปี้กับดีลนี้มากนักเนื่องจากเขาต้องการอยู่ในถิ่น ‘คัมป์ นู’ ตามความฝันของเขาต่อไป

ท้ายสุดก่อนตลาดวาย บาร์เซโลน่า ตัดสินใจปล่อย อองตวน กรีซมันน์ ย้ายกลับ แอตเลติโก มาดริด ด้วยสัญญายืมตัวเบื้องต้น 1 ปี ทั้งที่พวกเขาเคยจ่ายเงิน 120 ล้านยูโรฉีกสัญญาของกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสเพื่อดึงมาเข้าสังกัดในช่วงซัมเมอร์ปี 2019

กรีซมันน์ อาจทำผลงานไม่คุ้มค่าตัวหลังยิงเพียง 35 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการ 102 เกมและยังถูกสาวกบาร์เซโลนีสต้าบางส่วนส่งเสียงโห่ด้วย แต่เหตุผลหลักที่ทำให้ทีมอาซูลกราน่าตัดสินใจปล่อยกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสออกจากสโมสรเพราะต้องการลดภาระค่าจ้างที่ต้องจ่ายให้นักเตะปีละ 21 ล้านยูโร

กองหน้าวัย 30 ปี เลือกย้ายกลับ แอตเลติโก มาดริด ด้วยความยินยอมพร้อมใจ แม้ กรีซมันน์ จะลดค่าจ้างลงเหลือราว 10 ล้านยูโรต่อปีก็ตาม แต่เขายังเป็นนักเตะที่รับค่าเหนื่อยแพงสุดของทีมตราหมี มากกว่า หลุยส์ ซัวเรซ, ฆอร์เค่ เรซูร์เรกซิออน โกเก้, ยาน โอบลัค และ ชูเอา เฟลิกซ์

อย่างไรก็ตามดีลดังกล่าวเกิดขึ้นแบบเส้นยาแดงผ่าแปดก่อนตลาดซัมเมอร์ปิดทำการ เนื่องจากต้องรอให้ แอตเลติโก มาดริด เคลียร์รันเวย์ปล่อย ซาอูล ญีเกซ ย้ายไปเล่นกับ เชลซี ด้วยสัญญายืมตัวเพื่อขยายช่องว่างของเพดานเงินเดือนรองรับ กรีซมันน์

เมื่อข้อตกลงระหว่าง แอตเลติโก มาดริด – ซาอูล – เชลซี เสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการจึงส่งผลต่อเนื่องถึง กรีซมันน์ และการทำข้อตกลงระหว่าง บาร์เซโลน่า – เดอ ย็อง – เซบีย่า ด้วยเช่นกัน

ส่วนนักเตะที่สโมสรพยายามทุกวิถีทางเพื่อเขี่ยทิ้งแต่ไม่ประสบความสำเร็จและยังต้องอยู่ใน ‘คัมป์ นู’ ต่อไปคือ มิราเล็ม เปียนิช, ซามูแอล อุมตีตี้ และ ฟิลิปเป้ กูตินโญ่

บาร์เซโลน่า ยังสร้างความประหลาดใจด้วยการดึง ลุค เดอ ย็อง กองหน้าวัย 31 ปีจาก เซบีย่า มาร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัวหนึ่งปี ตามความประสงค์ของ โรนัลด์ คูมัน หลังทั้งสองคนเคยร่วมงานกันระหว่างที่เทรนเนอร์ชาวดัตช์เคยกุมบังเหียนทีมชาติเนเธอร์แลนด์สก่อนหน้านี้

สาวกบาร์เซโลนีสต้าหลายคนสงสัยว่า ลุค เดอ ย็อง ซึ่งไม่ใช่ญาติของ เฟรงกี้ เดอ ย็อง เป็นใคร?มาจากไหน? เหตุใดทีมอาซูลกราน่าจึงดึงมาเป็นตัวแทนของ กรีซมันน์

แน่นอนว่าทีมยักษ์ใหญ่แคว้นกาตาลุนย่าต้องการกองหน้าตัวเป้าธรรมชาติที่ขาดหายไปนับตั้งแต่การย้ายสังกัดของ หลุยส์ ซัวเรซ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2020 ซึ่ง คูมัน มองว่ากองหน้าวัย 31 ปีเหมาะกับระบบของเขา

เดอ ย็อง เคยค้าแข้งกับหลายสโมสรทั้ง เดอ กราฟสคัป, ทเวนเต้, มึนเช่นกลัดบัค, นิวคาสเซิ่ล, พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น จนกระทั่งย้ายมาเล่นกับ เซบีย่า ในช่วงซัมเมอร์ปี 2019 เขาเคยล้มเหลวระหว่างการเล่นกับทีมสาลิกาด้วยสัญญายืมตัวในช่วงครึ่งหลังของซีซั่น 2013-2014 โดยยิงไม่ได้แม้แต่ประตูเดียวจากการลงเล่น 12 เกม

ช่วงพีคสุดของ เดอ ย็อง คือการค้าแข้งกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ในช่วงปี 2014-2019 ยิงรวมกัน 112 ประตูจากการลงเล่น 204 เกม แต่นั่นคือพรีเมียร์ดัตช์ ช่วง 2 ซีซั่นที่ย้ายมาเล่นกับทีมดังแคว้นอันดาลูเซียทำเพียง 19 ประตูจากการลงเล่น 94 เกม

พิจารณาจากโปรไฟล์ข้างต้นแล้ว ลุค เดอ ย็อง ไม่ใช่นักเตะที่เหมาะสำหรับ บาร์เซโลน่า ด้วยประการทั้งปวง แต่เป็นเพราะพวกเขาไม่มีทางเลือกมากนัก เมื่อนักเตะอย่าง มาร์ติน เบรธเวต ยังสามารถเล่นกับทีมอาซูลกราน่าได้จึงไม่น่าแปลกใจที่กองหน้า เกรด ซี อย่างหัวหอกชาวดัตช์จะกลายเป็นนักเตะบาร์ซ่า ทว่าคงจะออกมาทรงเดียวกับ มักซี่ โลเปซ กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ที่เคยค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ในช่วงปี 2004-2006 โดยทำเพียง 2 ประตูจากการลงเล่น 19 เกม

อย่างไรก็ตามอีกหนึ่งการเซ็นสัญญาที่น่าสนใจของ บาร์เซโลน่า คือ ยูซุฟ เดมีร์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งชาวออสเตรียนเชื้อสายเติร์กที่ย้ายมาจาก ราปิด เวียนนา ด้วยสัญญายืมตัวหนึ่งปี มูลค่า 500,000 ยูโร พ่วงอ็อปชั่นซื้อขาด 10 ล้านยูโร

เดมีร์ วัย 18 ปี ถนัดเท้าซ้าย สามารถเล่นได้ทั้งปีกขวาและซ้าย รวมถึงตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก ซึ่ง บาร์เซโลน่า มอบเสื้อหมายเลข 11 ให้มิดฟิลด์ดาวรุ่งชาวเติร์กเบอร์เก่าของ อุสมาน เดมเบเล่ ที่ย้ายไปสวมเสื้อเบอร์ 7 ต่อจาก กรีซมันน์

คูมัน ยังเปิดซิง เดมีร์ ด้วยการลงเล่นบนเวทีลีกาฐานะสำรองหลังลงเล่นแทน เบรธเวต ในเกมเสมอ แอธเลติก บิลเบา 1-1 กลายเป็นนักเตะต่างชาติอายุน้อยสุดที่ลงประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ด้วยวัย 18 ปีกับ 80 วัน นับตั้งแต่ เมสซี่ ลงเจิมทีมชุดใหญ่เมื่อปี 2004 ตอนอายุ 17 ปีกับ 114 วัน

‘เดมีร์ มีช่วงเวลาที่ยากลำบากในสนามใหญ่อย่าง ซาน มาเมส เพราะเขายังเด็กมาก แต่มันดีมากสำหรับเขาที่ได้ประเดิมสนามที่นี่เพื่อเริ่มปรับตัวให้เข้ากับฟุตบอลระดับนี้’ คูมัน กล่าวถึงปีกวัย 18 ปี

ทั้งหมดคือความเคลื่อนไหวของทีมอาซูลกราน่าตลอดช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาทำให้พวกเขากลายร่างจากทีมต่างดาวมาเป็นทีมมนุษย์เดินดิน ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควรสำหรับการกลับมาเป็นโคตรทีมอีกครั้ง

คลิกเลย >>> UFABETWINS
อ่านเพิ่มเติม >>> บ้านผลบอล